จะรับถึงสมาธิของข้าเดใจก็จะได้ช่วยเหลือครอบครัวนะ>>ณวินาทีนี้ผมเชื่อว่าหัวใจของคนไทยทั้งแผ่นดินกำลังแตกสลายตามที่สำหนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการราชการที่เมื่อเวลา21:21น.ของคืนวันที่24ตุลาคมพ.ศักราชพศักราช256สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้เสด็จสวรรคตแล้วณโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์แผ่นดินกำลังร่ำให้ในนามของวังหลวงแวงแชนลผมขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมแสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้งที่สุดต่อการ
สูญเสียครั้งประวัติศาสตร์นี้นี่ไม่ใช่เพียงการจับไปของพระบรมวงศานุวงชชั้นสูงแต่คือการสิ้นสุดของยุคสมัยอย่างแท้จริงนี่คือการสูญเสียพระมารดาของชาติผู้ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของพวกเรามาตลอด7ทศวรรษเราทุกคนต่างเติบโตมาภายใต้พระบารมีของพระองค์ภาพที่พระองค์เสด็จเคียงข้างในหลวงรัชกาลที่9ไปในทุกถิ่นทุรกันดารเพื่อพลิกฟื้นชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกรภาพเหล่านั้นจะยังคงตระตรึงอยู่ในความทรงจำของเราคนตลอดไปแต่ในฐานะช่องที่ทำหน้าที่ขายรหัสและ
วิเคราะห์สิ่งที่อยู่ระหว่างบรรทัดเราไม่สามารถปฏิเสธความจริงข้อหนึ่งได้ความจริงที่ว่าการสวรรคตครั้งนี้ไม่ใช่แค่การสูญเสียแต่มันคือการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดคือการสิ้นสุดยุคสมัยแห่งบารมีเก่าที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองวังหลวงยุคใหม่เป็นเวลากว่า70ปีสมเด็จพระพันปีหลวงไม่ได้ทรงเป็นเพียงราชินีแต่พระองค์คือศูนย์กลางแห่งอำนาจจังหวัดคือสัญลักษณ์ของฝ่ายอำนาจเก่าที่อย่างรากลึกและมั่นคงที่สุดคำพูดของพระ
องค์การปรากฏพระองค์หรือแม้แต่ความเงียบของพระองค์ล้วนมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่กำหนดทิศทางของกระดานหมากทั้งกระดานดังนั้นเมื่อเสาหลักที่แข็งแกร่งที่สุดเสาหลักที่ค้ำจุนความมั่นคงของยุคสมัยที่9ไว้ได้ล้มลงคำถามที่พวกเราต้องไล้หัดต่อไปก็คืออะไรจะเกิดขึ้นต่อไปแน่นอนครับเมื่อเราพูดถึงมรดกของสมเด็จพระพันปีหลวงสิ่งแรกที่เรานึกถึงคือมูลนิธิสัพพอดคือผ้าไหมไทยคือขหนคือโครงการในพระราชดำริมากมายนั่นคือมรดกที่มอง
เห็นได้Legacyมรดกเหล่านี้ยิ่งใหญ่และจะคงอยู่ตลอดไปเรื่องนี้ไม่มีข้อโต้แย้งแต่สิ่งที่วังหลวงแบงือแองchannelกำลังจะวิเคราะห์คือมรดกที่มองไม่เห็นInvisibleLegacyมรดกที่แท้จริงซึ่งเป็นกาวใจที่ยึดโยงกลุ่มอำนาจต่างๆในสังคมไทยไว้ด้วยกันนั่นคือบารมีบารมีต้องทำความเข้าใจก่อนว่าบารมีของพระองค์ไม่ได้เกิดจากการเป็นราชินีเท่านั้นแต่เกิดจากการที่พระองค์ทรงร่วมสร้างยุคสมัยแห่งรัชกาลที่9ขึ้นมาเคียงบ่าเคียงไหล่กับในหลวงภาพลักษณ์ของ
สถาบันกษัตริย์ยุคใหม่ถูกสร้างขึ้นโดยคน2คนและพระองค์คือครึ่งหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่งยวดพระองค์คือPowerSoftPowerที่แท้จริงของราชวงศ์และมรดกที่สำคัญที่สุดอีกประการคือเครือข่ายอำนาจPowerNetworkพระองค์คือสมอแองคาที่ยึดโยงฝ่ายอำนาจเก่าtheOldGodเอาไว้กลุ่มชนชั้นสูงเก่ากลุ่มตระกูลขุนนางและที่สำคัญที่สุดคือกองทัพโดยเฉพาะกลุ่มทหารเสือราชินีควีนสกอรเครือข่ายเหล่านี้ไม่ได้เชื่อมโยงกับพระองค์เพียงเพราะตำแหน่งแต่เชื่อมโยงด้วย
บารมีส่วนพระองค์ด้วยความจงรักภักดีที่ถูกบ่มเพาะมายาวนานหลายสิบปีมรดกที่มองไม่เห็นเหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้พระองค์ทรงเป็นผู้เล่นที่สำคัญที่สุดบนกระดานหมากนี้แม้ในยามที่พระองค์ทรงพระประชวนและไม่ได้ปรากฏพระองค์ต่อสาธารณะและนั่นจึงนำมาสู่คำถามที่2เมื่อสมอที่แข็งแกร่งที่สุดได้ถูกถอนออกไปอะไรจะเกิดขึ้นกับช่องว่างแห่งอำนาจมหาศาลนี้กระดานหมากที่เคยสมดุลฤทธิ์กำลังจะถูกเขย่าอย่างรุนแรงเรามาวิเคราะห์ผู้เล่นThe
Playersบนกระดาษนี้ว่าจะได้รับผลกระทบอย่างไรผู้เล่นที่1รัชกาลที่10KingRomการสวรรคตของพระบรมราชชนนีในแง่หนึ่งคือการรวบอำนาจConsolidationofPowerที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่ผ่านมาแม้พระองค์จะทรงเป็นกษัตริย์แต่บารมีของฝ่ายอำนาจเก่าที่นำโดยสมเด็จพระพันปีหลวงยังคงเป็นดุลออำนาจที่สำคัญแต่นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไปดุลอำนาจนั้นได้สิ้นสุดลงแล้วรัชกาลที่10ได้ทรงกลายเป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจเพียงหนึ่งเดียวอย่างแท้จริงไม่มีบารมีเก่าใดที่จะมาคานอำนาจ
หรือทัดเทียมได้อีกต่อไปนี่คือการเริ่มต้นยุคสมัยของพระองค์อย่างสมบูรณ์100%ผู้เล่นที่2พระราชินีสุธิดาควีนซาเฟดะนี่คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดสำหรับพระราชินีองค์ปัจจุบันที่ผ่านมาบทบาทพระมารดาของชาตินั้นยังคงเป็นของสมเด็จพระพันปีหลวงแต่บัดนี้ตำแหน่งนั้นได้ว่างลงพระราชินีสุธิดาคือผู้ที่จะต้องก้าวขึ้นมารับบทบาทนี้ทั้งในทางพิธีการและในทางสัญลักษณ์พระองค์จะกลายเป็นซอกพาวเวอร์หนึ่งเดียวของสถาบันบารมีของพระองค์ซึ่งกำลังถูกสร้างขึ้นจะ
ถูกเร่งให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดนี่นี่คือช่วงเวลาที่บทบาทของพระราชินีสุธิดาจะโดดเด่นและสำคัญที่สุดนับตั้งแต่ทรงได้รับการสถาปนาผู้เล่นที่3ฝ่ายอำนาจเก่าtheoldก่อนนี่คือกลุ่มที่เคว้งคว้าที่สุดกลุ่มทหารเก่ากลุ่มขุนนางเก่าเครือข่ายที่เคยพึ่งพิงพระบารมีของสมเด็จพระพันปีหลวงเมื่อสมอได้จากไปพวกเขากำลังลอยคว้างอยู่กลางทะเลพวกเขามีเพียง2ทางเลือก1คือการยอมจำนวนและสวามิภัก์ต่อศูนย์กลางอำนาจใหม่รัชกาลที่10อย่างไม่
มีเงื่อนไขหรือ2คือการค่อยๆถูกลดทอนความสำคัญและเลือนหายไปจากกระดานหมากนี่คือจุดจบที่แท้จริงของโครงสร้างอำนาจยุครัชกาลที่9และนั่นนำมาสู่คำถามสุดท้ายอนาคตของสถาบันจะเป็นอย่างไรการสูญเสียครั้งนี้ไม่ใช่แค่แค่การสูญเสียบุคคลแต่คือการสูญเสียกรอบป้องกันTheShieldที่แข็งแกร่งที่สุดสมเด็จพระพันปีหลวงคือกรอบที่ทำจากบารมีและความรักของประชาชนที่คอยปกป้องสถาบันมาโดยตลอดยุคใหม่NewYearที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นนี้จะเป็น
ยุคที่สถาบันต้องเผชิญหน้ากับโลกภายนออกโดยไม่มีเกราะชิ้นนี้อีกต่อไปจะเป็นยุคที่สถาบันถูกนิยามด้วยdeชอPowerมากกว่าบารมีSoftPowerเหมือนในอดีตนี่คือความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดที่สถาบันจะต้องปรับตัวเพื่อที่จะเดินหน้าต่อไปในโลกที่กระดานหมากได้เปลี่ยนไปตลอดกาลนี่คือช่วงเวลาที่คนไทยทั้งชาติอยู่ในความโศกเศร้าอย่างหาที่สุดมิได้และในขณะที่เรากำลังไว้ทุกข์กระดานหมากก็ไม่เคยหยุดนิ่งวังทางหลวงแบงูแองชลจะยังคงทำ
หน้าที่วิเคราะห์และจับสัญญาณการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์นี้ต่อไปอย่างใกล้ชิดเพราะนี่คือจุดเริ่มต้นของยุคสมัยใหม่อย่างแท้จริงสุดท้ายนี้เราขอน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะHa.